เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 3 มิถุนายน 2562  นายเฉลิมภัทร์ โคตรวงษ์ อายุ 42 ปี ผู้จัดการโรงปลาร้าแม่อ้อยกาฬสินธุ์ ลำปาว เลขที่ 59 ม.3 ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางสาววทัญญา ประจันตะเสน อายุ 40 ปี ผู้ช่วยผจก.โรงปลาร้าแม่อ้อยกาฬสินธุ์ ลำปาว นำเอกสารหลักฐานต่างๆเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อุดมศิลป์ นาชัยนาค ร้อยเวร สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ดำเนินคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับผู้ที่แชร์ข้อความและภาพในเฟซบุ๊ค รวมถึงโลกโซเชียล ซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จ โดยข้อความดังกล่าวมีภาพของเจ้าหน้าที่แถลงข่าว และภาพน้ำปลาร้าบรรจุในขวดยี่ห้อปลาร้ากาฬสินธุ์ (แม่อ้อยลำปาว) พร้อมข้อความระบุว่า “ประกาศด่วน วันที่ 8 ม.ค.59 บก.ตร.ภาค 4 ร่วมกับ สสจ.ขอนแก่น และสสจ.กาฬสินธุ์ บุกทลายแหล่งผลิตปลาร้าเถื่อนที่ จ.กาฬสินธุ์ และแหล่งขายส่งที่ตลาดค้าส่ง จ.ขอนแก่น ได้ของกลางเป็นปลาร้าบรรจุขวดนับแสนขวด ทำด้วยขี้เลื่อย ไส้เดือน อึ่ง งู คางคก เหล็กจากบ่อต้มขนาดใหญ่ น่าอ้วกช่วยกันแชร์กันหน่อยนะคะ”

ทั้งนี้หลังจากข้อความดังกล่าวมีการแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมากในโลกโซเชียล ซึ่งนอกจะกระทบกับผู้ประกอบการปลาร้ายี่ห้อดังกล่าวแล้ว ยังส่งผลกรับไปยังผู้ผลิตปลาร้ารายอื่นๆรวมทั้งกลุ่มแม่บ้านต่างๆในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์เป็นวงกว้าง เนื่องจาก จ.กาฬสินธุ์ถือเป็นแหล่งผลิตปลาร้าและส่งขายที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

นายเฉลิมภัทร์ โคตรวงษ์ อายุ 42 ปี ผู้จัดการโรงปลาร้าแม่อ้อยกาฬสินธุ์ ลำปาว กล่าวว่า  ขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีแชร์ภาพและข้อความ เมื่อครั้งที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานปลาร้าแม่อ้อยลำปาว ตั้งแต่ปี 2559 ในโลกโซเชียลกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นภาพและข้อความเก่า และที่สำคัญเป็นข้อมูลที่บิดเบือนและเป็นเท็จ โดยเฉพาะข้อความที่ระบุว่าปลาร้ายี่ห้อของตนที่รู้จักกันในนามแม่อ้อยลำปาวทำด้วยขี้เลื่อย ไส้เดือน อึ่ง งู คางคก เหล็กจากบ่อต้มขนาดใหญ่ ซึ่งการแชร์และโพสต์ข้อความนี้ทำให้กระทบกับธุรกิจการจำหน่ายปลาร้าของตนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้การแชร์ข้อมูลที่เป็นเท็จยังส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการผลิตปลาร้ารายอื่นๆ และกลุ่มแม่บ้านที่ผลิตปลาร้าโอทอป รวมทั้งคนงานหาปลา และร้านจำหน่ายวัตถุดิบให้เป็นวงกว้าง เนื่องจากพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ถือเป็นแหล่งผลิตปลาร้าที่มีคุณภาพและใหญ่ที่สุดในประเทศ แต่กลับมาเจอกับการแชร์ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ทำให้ประชาชนที่มีอาชีพทำปลาร้าที่เป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่นในการถนอมอาหารและเป็นวัตถุดิบปรุงอาหารต่างๆต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงและรายได้ด้วยมือเกรียนโซเชียล เป็นการดูถูกภูมิปัญหาชาวอีสาน ดังนั้นในวันนี้ เพื่อเป็นการปกป้องชื่อเสียงปลาร้าของตน รวมทั้งปลาร้าของจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ หรือแชร์ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงและทำให้ปลาร้าของจังหวัดกาฬสินธุ์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง        

นายเฉลิมภัทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับภาพที่มีการแชร์นั้นเป็นเหตุการณ์เมื่อปี 2559 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก จ.ขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบโรงปลาร้าของแม่อ้อยลำปาว ซึ่งได้มีการแจ้งข้อหาไม่ขออนุญาตตั้งโรงงานและผลิตภัณฑ์ไม่มี อย.เท่านั้น เนื่องจากครั้งนั้นเป็นการพัฒนาสินค้าปลาร้า จากเดิมที่บรรจุขายใส่ถุงและปี๊ป มาเป็นการบรรจุใส่ขวด จึงยังไม่ทราบข้อกฎหมาย โดยขณะนั้นได้มีผู้ไม่หวังดีไปถ่ายภาพบ่อทิ้งกากปลาร้า ซึ่งมีภาพงูและอึ่งอ่างแล้วนำมาโพสต์ใส่ร้าย จนเสื่อมเสียมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของก็ยืนยันแล้วว่าไม่ได้มีการผลิตน้ำปลาร้าจากงู หรืออึ่งอ่าง  ทั้งนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบ ทางโรงปลาร้าก็ได้ดำเนินการขออนุญาตจัดตั้งโรงงานตามกฎหมาย และปรับปรุงโรงงานจนได้มาตรฐาน พร้อมกับผ่าน อย.แล้ว แต่กลับมาถูกแชร์ข้อความที่โจมตีใส่ร้าย ซึ่งอยากฝากไปถึงคนที่โพสต์ คนที่แชร์ หรือคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ควรที่จะมีสติก่อนแชร์ ไม่ควรเห็นแก่ยอดกดไลค์ เพราะทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนไปด้วย

ด้านร.ต.อ.อุดมศิลป์ นาชัยนาค ร้อยเวร สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องทุกข์และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้ว จากนั้นก็จะตรวจสอบประวัติของผู้ที่แชร์ข้อความดังกล่าว และจะดำเนินการออกหมายเรียกให้เข้ามาสอบปากว่า เบื้องต้นจะเป็นการเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จบิดเบือนให้ผู้อื่นเสียหายหรือไม่

ภาพ / ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.กาฬสินธุ์