จากกรณีเมื่อช่วงหัวค่ำของวานนี้ที่ 4 มิถุนายน 2564 ได้มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น PCX สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนได้ก่อเหตุกระชายสร้อยสองแม่ลูก ขณะขี่รถจักรยานยนต์กำลังจะออกปากซอยโรงเหล็ก ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.บางหญ้าแพรก  อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ทำให้รถจักรยานยนต์ของสองแม่ลูกเสียหลักล้มตัวแม่ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ส่วนลูกสาววัย 6 ขวบได้รับบาดเจ็บด้วยเช่น  ห่างกันเพียงไม่ถึงอาทิตย์ คนร้ายรายเดิมได้มาลงมือก่อเหตุแบบเดียวกันที่บริเวณถนนเรียบทางด่วน ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ขี่รถจักรยานยนต์คันเดิมขึ้นมาประกบผู้เสียก่อนกระชากสร้อยไป และขี่รถหลบหนีขึ้นสะพานภูมิพล มุ่งหน้าไปลงในย่านพระราม 3  หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.จักรพงษ์ นุชผดุง ผกก. สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนวางแผนระดมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ   

จนกระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงหัวค่ำของวันนี้ที่ 17 มิถุนายน 2564 จนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนาย ภานุวัฒน์  หรือกอล์ฟ รัศมี  อายุ 33 ปี มีบ้านพักอาศัยอยู่ในบางโพงพาง เขตยานนาวา จึงนำกำลังเดินทางไปจับกุมนายภานุวัฒน์ ได้ที่บ้านเลขที่ 425 / 207 ซอยปริยานนท์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร พร้อมตรวจยึดของกล่าว รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX สีดำ ทะเบียน  6กก 1607 กรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ก่อเหตุใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุและหลบหนี พร้อมด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะลงมือก่อเหตุ ก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ โดยมี พ.ต.อ.จักรพงษ์ นุชผดุง ผกก. สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ลงมาสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเอง 

โดยในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ได้คุมตัวมาถึงโรงพักญาติของผู้เสียหายรายแรกที่ถูกก่อเหตุจนรถล้มได้รับบาดเจ็บพร้อมด้วยลูกสาววัย 6 ขวบได้ตรงเข้าตบหัวนายภานุวัฒน์ ผู้ก่อเหตุเข้าฉาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ต้องกันตัวและรีบคุมตัวนายภานุวัฒน์ ผู้ก่อเหตุเข้าไปทำการสอบปากคำในห้องสืบสวน โดยนายภานุวัฒน์ ได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริงทั้งสองราย โดยยืมรถจักรยานยนต์ของน้องสาวมาถอดป้ายทะเบียนออก ก่อนมาขี่ตระเวนอยู่ในย่านถนนเรียบทางด่วนบางหญ้าแพรก พื้นที่อำเภอพระประแดง เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ง่ายต่อการหลบหนีขึ้นสะพานภูมิพลโดยจะขี่รถตระเวนหาเหยื่อโดยจะเลือกเฉพาะเหยื่อที่เป็นผู้หญิง โดยจะขี่รถขึ้นมาประกบรถผู้เสียก่อนลงมือกระชากสร้อยและขี่รถหลบหนีขึ้นสะพานภูมิพล หลบหนีไปลงพระราม 3 กลับไปกบดานที่บ้านพัก โดยก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกในฝั่งอำเภอพระประแดง ส่วนอีกสองครั้งก่อเหตุในพื้นที่สำโรงใต้ฝั่งปู่เจ้าสมิงพราย ส่วนที่ต้องมาก่อเหตุนั้นเนื่องจากตนมีอาชีพขับรถรับส่งอาหารแต่รายได้ไม่พอใช้หนีพนันออนไลน์และเล่นไฮโลในย่านบางโพงพาง จึงได้มาลงมือก่อเหตุดังกล่าว  

ขณะที่ น.ส.นิภา  จันทร์ผ่อง อายุ  37 ปี ผู้เสียที่ถูกก่อเหตุจนรถล้มจนได้รับบาดเจ็บพร้อมกับลูกสาววัย 6 ขวบ ได้กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์มาทางปากซอยโรงเหล็กโดยมีลูกสาววัย 6 ขวบนั่งซ้อนท้ายมาและถูกกระก่อเหตุจนรถเสียหลักล้มได้รับบาดเจ็บ โดยขี่รถมาจากถนนเลียบทางด่วนบางหญ้าแพรก ลัดเลาะมาออกซอยโรงเหล็กเพื่อที่จะไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้ลูกสาวกิน จนมาถึงที่เกิดเหตุ เขาก็ขี่รถขึ้นตีคู่ และส่งเสียงคล้ายเรียกเราและกระชากสร้อยไป ส่วนรถตนเสียหลักล้มได้รับบาดเจ็บที่ตนและลูกสาวทุกวันนี้ยังไม่หายเลย ศีรษะแตกลึกถึงกะโหลกและมึนงงระหง่างที่ลุกนั่ง ก็รู้สึกดีใจที่ตำรวจจับกุมเอาไว้ได้อย่างน้อยจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่นได้พักใหญ่ในระหว่างที่เขาถูกจับไป 

ด้าน น.ส. สุพิชญา ดาบเงิน อายุ 24 ปี ผู้เสียหายรายที่สอง ได้กล่าวว่าในวันที่เกิดเหตุตนกำลังไปส่งของให้ลูกค่าในย่านท่าน้ำพระประแดง โดยมีน้องสาวเป็นคนขี่ส่วนตนนั่งซ้อนท้ายมาและใช้เส้นทางเลียบด่วนบางหญ้าแพรก อยู่ผู้ก่อเหตุก็ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขึ้นมาประกบทางด้านขวาก่อนกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทและพระเลี่ยมทองจากคอตนไป และในวันนี้ทางตำรวจสามารถตามจับกุมตัวมาได้ก็รู้สึกดีใจ คนอื่นจะได้ไม่โดนเหมือนตนอีก ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ก็ใส่มาตลอดก็อยากจะให้คนอื่น ๆ ระวังให้มาก ๆ เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีแถมโควิดระบาดคนที่คิดสั้นมาทำแบบนี้มันก็เยอะ ก็อยากให้ระวังกันให้มาก ๆ       

ด้าน พ.ต.อ.จักรพงษ์ นุชผดุง ผกก. สภ.สำโรงใต้ ได้กล่าวเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุว่า  วิ่งราวและชิ่งทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อทำการสอบสวนขยายผลและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

ภาพ / ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.สมุทรปราการ