จากกรณีนางจันทิรา ศรีศักดิ์ ชาวจังหวัดเพชรบุรี เข้าร้องทุกข์กับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่า น.ส.จริยา ศรีศักดิ์ หรือน้องน้ำ บุตรสาววัย 16 ปี หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยนานกว่า 5 ปี ก่อนจะพบเป็นศพถูกฆ่าอำพรางฝังดิน ในพื้นที่ ต.หนองโสน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งจากการสอบปากคำพยานพบว่าเป็นฝีมือของนายจ้างสาวใหญ่ อดีตผู้เข้าประกวดนางงาม ตามที่สำนักข่าวคลิ๊กนิวส์ ได้เคยนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี  ได้เดินทางมากองปราบปรามเพื่อร่วมกันสอบปากคำ น.ส.กฤษณา หรือ โมนา ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย น้องน้ำ จนเสียชีวิต ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม สามารถจับกุม น.ส.กฤษณา ได้เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.)

 พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยหลังจากที่ผู้ตายเข้ามาทำงานเป็นแม่บ้านได้ 2 เดือน ผู้ต้องหาได้ลงมือทำร้ายร่างกาย โดยการใช้กระป๋องสเปรย์ยาวประมาณ 1 ฟุต ทุบตีที่ร่างกายและศีรษะ และใช้เครื่องหนีบผม จี้ตามลำตัว จนผู้ตายมีแผลพุพองตามร่างกาย และเสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่บ้านพักย่านจตุจักร จากนั้นได้ร่วมกับพวก 3-4 คน นำร่างผู้ตายไปฝังไว้ที่สวนหลังบ้านแม่ของผู้ต้องหาที่จังหวัดเพชรบุรี

ด้านนางจันทิรา ศรีศักดิ์ มารดาของน้องน้ำ กล่าวว่า แม้ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จะยังไม่ยืนยันออกมา แต่ตนเองก็สามารถจดจำรายละเอียดทุกอย่างของบุตรสาวได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันคนในครอบครัวที่เห็นเหตุการณ์ ก็ได้เล่ารายละเอียดให้ฟังว่า เมื่อนายจ้างไม่พอใจก็จะลงมือทำร้ายร่างกาย จนทำให้น้องน้ำ กระดูกซี่โครงหัก ร่างกายบอบช้ำอย่างหนัก พร้อมกับล่ามโซ่บุตรสาวเอาไว้จนเสียชีวิต หากได้พูดคุยกับผู้ต้องหา ก็ยังคงยืนยันที่จะถามคำถามเดิมว่า "ฆ่าลูกฉันทำไม" หัวอกคนเป็นแม่ทรมานมาก และยิ่งได้รับทราบความจริง ยิ่งทรมานและเสียใจมากกว่าเดิม ส่วนผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่ตนเองขอยืนยันว่า จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อมูลว่า ยังมีผู้ร่วมขบวนการณ์อีก 3 คน ซึ่งช่วยเหลือในการซ่อนเร้นอำพรางศพ ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีต่อไป

เปิดโฉมหน้า โมนา นายจ้างมหาโหด

ขอบคุณ ที่มา : คลิ๊กนิวส์ , js100.com ,Police News Varieties