เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 พ.ค.2560  พ.ต.ต.วีรพล สิทธิพันธ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีชาวบ้านพบโครงกระดูกมนุษย์ อยู่บริเวณป่าทางเข้าสำนักสงฆ์หนองกระเรียน บ้านหนองหัวลิง ม10 ต.โพธิงาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เป็นป่า หน้าทางเข้าสำนักสงฆ์ดังกล่าว ที่เกิดเหตุพบซากกองกระดูกมนุษย์ แขน ขา และหัวกระโหลก อยู่กระจัดกระจายทั่วบริเวณ

นอกจากนั้น พบกางเกง และผ้าห่มสีเทา อยู่ข้างโครงกระดูกผูู้ตาย คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ตาย ต่อมาได้มีนางอินทร์ รัดดร อายุ 75 ปี แสดงตนว่าโครงกระดูกที่พบคือสามีตนที่หายออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 เนื่องจากจำเสื้อผ้า ของผู้ตายได้ และได้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ที่ สภ.ประจันตคาม  โดยตลอดเวลาหลังจากที่หายออกจากบ้านญาติและลูกพยามยามตามหามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการดูหมอ ทรงเจ้าเข้าทรงที่ไหนดี ก็พยามเสาะหา ตามคำทำนาย แต่ไร้วี่แวว จนในที่สุดมาพบกลายเป็นศพเหลือแต่โครงกระดูก

"เหตุการณ์รายนี้สืบเนื่องมาจากได้มีการลงประกาศในโลกโซเซียล" เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 นางวราพร เครือวงค์ บุตรสาว วอนสื่อช่วยตามหาลุงวัย 79 ปี  บิดาของตน ได้หายออกจากบ้านโพธิงามวอนเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ และหน่วยกู้ภัยทุกหน่วยงาน ให้ความช่วยเหลือตามหา นายบุญชู รันดร อายุ 79 ปี บ้านเลขที่ 152 ม.2 ต.โพธิงาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่เวลา เที่ยงคืนเศษ ของเช้าวันที่ 9 มีนาคม 2560 ระหว่างที่ นายบุญชู หายออกจากบ้านมิได้สวมเสื้อ และรองเท้า สวมกางเกงขาสั้นสีดำ หากส่วนราชการ หรือหน่วยกู้ภัยทุกหน่วย ใดพบลุงบุญชู รันดร ลุงวัย 79 ปี ช่วยแจ้งกลับมายัง นางสาววราพร บุตรสาวด้วย ซึ่งนายบุญชู มีอาการหลงลืม คาดว่าอาจจะกลับบ้านไม่ถูก การเดินจะไม่ค่อยสะดวกตามวัย หากผู้ใดพบเห็น ขอความกรุณาช่วยแจ้ง พ.ต.ต.อาทิตย์ ศรีปราชญ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ประจันตคาม โดยมี นางวราพร เครือวงษ์ บุตรสาว เป็นผู้แจ้งความคนหาย และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แล้ว หากท่านใดพบหรือได้ให้ความช่วยเหลือก่อนหน้านี้แล้ว กรุณาติดต่อกลับมา นางวราพร 087-0934865 , 097-2158745 บุตรสาวผู้สญหาย" 

ทางด้าน พ.ต.ต.วีรพล สารวัตรเวร พร้อมด้วยแพทย์เวร โรงพยาบาลประจันตคาม และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดปราจีนบุรี ได้ตรวจสอบโครงกระดูกดังกล่าวในเบื้องแล้ว จึงได้ส่งโครงกระดูกไปตรวจพิสูจน์ยังสถาบันนิติเวชฯ เพื่อยืนยันเอกลักษณ์บุคคลอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ภาพ / ข่าว : ทีมข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.ปราจีนบุรี