ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิต นักเตะเยาวชนและโค้ช ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ซึ่งติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย มาตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2561 เป็นเวลา 17 วัน ซึ่งล่าสุด ทีมหมูป่า 13 ชีวิต ยังคงรักษาตัวและเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
ล่าสุด วันที่ 13 กรกฎาคม 2561 นายบรรพต ก้อนคำ อายุ 45 ปี บิดาของ ด.ช.ดวงเพชร พรมเทพ หรือ น้องดอม อายุ 13 ปี 1 ใน 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า น้องดอม เล่าให้แม่ฟังว่า ในวันที่ 23 มิ.ย. 2561 หลังจากที่ซ้อมบอลเสร็จ น้องดอม และทีมหมูป่า รวม 13 ชีวิต ได้เข้าไปในถ้ำหลวง โดยกะว่าจะเข้าไปเที่ยวแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ระหว่างนั้นฝนตก น้ำป่าไหลทะลักเข้ามาภายในถ้ำ ทำให้ทุกคนต้องวิ่งเข้าไปด้านในเพื่อหนีน้ำ โดยวินาทีนั้น ทุกคนตกใจมาก แต่โค้ชเอกบอกว่า ให้พวกเรารีบหนี โดยตอนนั้นทุกคนเดินลุยน้ำ เพื่อหาช่องทางหนี โค้ชเอกได้นำไฟฉายมาส่องใต้น้ำ เห็นโพรงเล็กๆ ทุกคนจึงได้ใช้มือตะกุยโคลน และยกหินออก เพื่อหลบเข้าไปลึกๆ
น้องดอม ยังเล่าด้วยว่า ตอนอยู่ภายในถ้ำโค้ชเอกบอกให้นั่งอยู่นิ่งๆไม่ต้องใช้พลังงานเยอะ หากใครหิวน้ำก็ให้เอาไฟฉายสองขึ้นไปบนเพดานถ้ำ แล้วหารูที่น้ำฝนไหลมาและกินประทังชีวิต ตอนนั้นทุกคนไม่รู้วันรู้คืน มีการพูดคุยกันบ้าง เพื่อคลายเครียด โดยในวันที่มีนักดำน้ำชาวอังกฤษ พบเจอทีมหมูป่านั้น ความจริงแล้ว ทีมหมูป่า อยู่สูงกว่าที่ทุกคนเห็นในคลิป แต่ตอนนั้น เห็นว่ามีคนมา จึงได้รีบวิ่งลงมาเพื่อตะโกนขอความช่วยเหลือ และจากนั้น ก็มีหน่วยซีลเข้าไปอยู่กับทีมหมูป่า เพื่อรอวันที่จะช่วยเหลือออกมา
บิดาน้องดอมกล่าวต่อมา ตนไม่ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่พาทีมหมูป่าออกมาโดยวิธีไหน ทราบอีกที น้องดอมก็อาการปลอดภัยแล้ว แต่น้ำหนักลดไปประมาณ 3-4 กิโล เมื่อออกจากถ้ำ ขณะนี้ น้ำหนักเพิ่มขึ้นแล้ว 1 กิโล โดยระหว่างนี้ น้องดอมก็มีการบ่นว่าอยากกินหมูกระทะ ก๋วยเตี๋ยวเรือ และ อยากได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่เนื่องจากเครื่องเก่าตกน้ำหายไปแล้ว
ขอบคุณ ที่มา : ข่าวสด