แม่เศร้า "ลูกชาย" ติดคุกแทนค่าปรับ 4 วัน ดับปริศนาคาเรือนจำ ศพช้ำทั้งตัว หน้าบวม ปากเจ่อ

แม่เศร้า "ลูกชาย" ติดคุกแทนค่าปรับ 4 วัน ดับปริศนาคาเรือนจำ ศพช้ำทั้งตัว หน้าบวม ปากเจ่อ


เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 20 เม.ย. 62  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่บ้านเลขที่  23  ม.9  บ้านนิคมหนองฉลอง  ต.หนองฉลอง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ  นางสุรินทร์   เกษหอม  อายุ 62 ปี  ได้ร้องทุกข์กับสื่อมวลชนว่า ลูกชายของตน  คือ  นายพรหมปัญญา  เกษหอม อายุ 40 ปี   ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 62  ช่วงเทศกาล  7  วันอันตราย ในเขตพื้นที่  สภ.ปรือใหญ่ ต่อมาวันที่  15  เม.ย. 2562 ได้ถูกส่งตัวไปศาลจังหวัดศรีสะเกษ  โดยศาลสั่งปรับข้อหาเมาแล้วขับเป็นจำนวนเงิน  6,000  บาท  แต่ทางครอบครัวมีฐานะยากจน  ไม่มีเงินเสียค่าปรับ  จึงได้ติดคุกแทนค่าปรับ  ตั้งแต่วันที่  15 เม.ย. 2562 ต่อมาเช้าวันที่  18 เม.ย. 2562  นางเทวรรณ์  แสนสะอาด  ผู้ใหญ่ บ้านนิคมหนองฉลอง  9 ได้รับแจ้งจาก สภ.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ให้ไปแจ้งญาติด้วยว่า นายพรหมปัญญา เกษหอม ขณะที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำศรีสะเกษแทนค่าปรับ ตอนนี้ได้เสียชีวิตแล้วที่เรือนจำศรีสะเกษ


นางสุรินทร์   เกษหอม  อายุ 62 ปี  กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยต่อไปว่า  ตนและญาติจึงได้ไปติดต่อขอรับศพของนายพรหมปัญญา ที่เรือนจำศรีสะเกษ แต่ว่าทางเรือนจำแจ้งว่าให้ญาติไปติดต่อรับศพได้ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ตนและญาติจึงสอบถามเจ้าหน้าที่เรือนจำถึงสาเหตุการเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด   เจ้าหน้าที่บอกว่าผู้ตายช็อคหมดสติจึงได้นำส่งโรงพยาบาล  จากนั้น ตนและญาติจึงได้ไปติดต่อขอรับศพที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ซึ่งเมื่อตนเจอสภาพศพในครั้งแรกพบว่า  ศพลูกชายของตนมีสภาพร่างกายบอบช้ำทั่วร่างกาย ใบหน้าปูดบวม ปากเจ่อ ศีรษะบวม และญาติติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ ดังนั้น จึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ และขอให้ตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต 



ทางด้าน นางเทวรรณ์   แสนสะอาด  ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9  บ้านนิคมหนองฉลอง  กล่าวว่า  ตนได้ไปให้การช่วยเหลือนางสุรินทร์  เนื่องจากว่า เป็นลูกบ้านและเป็นญาติคนหนึ่งด้วย  และได้นำนางสุรินทร์ไปร้องขอให้แพทย์ รพ.ศรีสะเกษ นำศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตของและลงความเห็นถึงสาเหตุการตายว่า ศีรษะได้รับการกระทบกระแทกอันตรายรุนแรงและมีรอยคล้ายถูกทำร้ายมีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย ดังนั้น นางสุรินทร์ และญาติพี่น้องจึงได้ร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิต ถ้าหากไม่ได้รับความเป็นธรรม  ญาติพี่น้องทุกคนร่วมกับชาวบ้านนิคมหนองฉลอง จะไม่เผาศพของนายพรหมปัญญาและจะแห่ศพไปร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมที่ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรมและเจ้าหน้าที่ตามจับคนร้ายที่ทำร้ายนายพรหมปัญญาจนทำให้เสียชีวิตมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ภาพ / ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.ศรีสะเกษ






ติดต่อ โฆษณา

Contact : Click Marketting -

Clicknews-tv.net