รุมสาปแช่ง-ประชาทัณฑ์ "สาวอำมหิต" เชือดคอยายร้านเสริมสวย ดับทุรนทุราย

รุมสาปแช่ง-ประชาทัณฑ์ "สาวอำมหิต" เชือดคอยายร้านเสริมสวย ดับทุรนทุราย


เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ก.ย. พ.ต.อ.ภาคภูมิ  ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนมาก ควบคุมตัว น.ส.อารยา โสะอ้น อายุ 22 ปี ที่อยู่ 73 ม.8 ต.วัง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหา ที่ใช้อาวุธมีดเชือดคอชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือ น้ำหนักรวมกว่า 3 บาท ของ นางบัญญัติ กัลป์ทอง อายุ 74 ปี ภายในร้านเสริมสวยช่อทิพย์ ตั้งอยู่เลขที่ 68/21 ถ.เอกาทศรฐ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมารอดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และมาดูโฉมหน้าฆาตกรสาวรายนี้พร้อมทั้งตะโกนสาปแช่งต่างๆ นานา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยคุ้มกันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกรงว่าจะถูกชาวบ้านที่ยังอยู่ในอารมณ์โกรธแค้นเข้ามารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา จากนั้นผู้ต้องหาได้ลงจากรถตู้ของตำรวจโดยสวมหมวกกันน็อคสีดำปิดบังใบหน้า ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปทำแผนภายในบ้านบริเวณหน้าห้องน้ำ โดยผู้ต้องหาได้ใช้มีดครัวเชือดคอนางบัญญัติจนหลอดลมขาดดิ้นทุรนทุรายตายคาที่ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ไอ สีแดง หมายเลขทะเบียน 1กภ-5764 สุราษฎร์ธานี หลบหนีไป ซึ่งใช้เวลาทำแผนประมาณ 30 นาที จึงควบคุมตัวกลับไปฝากขังเอาไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก


ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ  ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและชิงทรัพย์ พร้อมจะสอบสวนในประเด็นอื่นเพิ่มเติม เนื่องจากขณะนี้ยังไม่พบสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือของกลาง ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าได้โยนทิ้งไประหว่างทาง ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่าไม่พอใจที่คนตายตัดผมให้ไม่ถูกใจนั้น ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างได้ แต่ประเด็นการสอบสวนเบื้องต้นนั้นมุ่งไปที่เรื่องการฆ่าชิงทรัพย์ และมีการเคลื่อนย้ายศพให้เหมือนกับว่าเป็นอุบัติเหตุ ถ้าพบว่าเป็นการฆาตกรรมอำพรางก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม



 ด้าน นายสรายุทธ กัลป์ทอง อายุ 51 ปี บุตรชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ถ้าดวงวิญญาณแม่รับรู้ก็คงให้อภัยและอโหสิกรรมคนร้ายรายนี้ เพราะแม่ของตนเป็นคนที่มีจิตใจดีมากๆ ตั้งแต่เล็กจนโตตนจะให้แม่ตัดผมให้ตลอด ไม่เคยไปให้ช่างคนไหนตัดให้นอกจากแม่ ส่วนตนไม่ต้องการให้คนร้ายมาขอขมาต่อหน้าศพแม่ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และอยากให้กฎหมายของประเทศไทยไม่ลดโทษให้ผู้ก่อเหตุคดีอุกฉกรรจ์ เพราะถ้าติดคุกไปไม่กี่ปีก็ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ อยากให้ชดใช้กรรมติดคุกตลอดชีวิต ให้สำนึกกับความผิดที่กระทำลงไป ทั้งนี้ปมเหตุที่คนร้ายอ้างว่าฆ่าแม่เพราะไม่ถูกใจที่ทำผมให้ไม่ดี ตนไม่อยากเชื่อและมั่นใจว่าไม่ใช่ประเด็นนี้แน่นอน เพราะคนร้ายจ้องเข้ามาชิงทรัพย์มากกว่า ส่วนศพของแม่ก็จะไปรับกลับจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรในวันพรุ่งนี้ ก่อนนำร่างมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดศรีวิสุทธิธาราม หรือวัดโคกมะตูม โดยจะตั้งศพสวดพระอภิธรรมจำนวน 3 คืน จากนั้นจะเก็บศพแม่เอาไว้ก่อนเพื่อรอพี่ชายคนโตเดินทางกลับจากประเทศอังกฤษ โดยจะต้องถูกกักตัวตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 จำนวน 14 วัน จึงจะมาร่วมพิธีฌาปนกิจศพต่อไป

ภาพ / ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.พิษณุโลก






ติดต่อ โฆษณา

Contact : Click Marketting -

Clicknews-tv.net