จากเหตุที่คนร้ายยิงตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรระแงะ จังหวัดนราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย และมีเจ้าหน้าที่ยิงต่อสู้คนร้ายอย่างกล้าหาญ ล่าสุด ศชต. ได้มีคำสั่งย้ายนายตำรวจคนดังกล่าวแล้ว เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย

วันที่ 2 เม.ย.60–ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศชต. ได้มีคำสั่งด่วนให้ย้าย สิบตำรวจโท พูลสวัสดิ์ เสถียรอุดม ผู้บังคับหมู่ปราบปราม สถานีตำรวจภูธรระแงะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นตำรวจที่ใช้อาวุธประจำกายยิงต่อสู้กับกลุ่มคนร้ายที่บุกกราดยิงใส่สถานีตำรวจภูธรระแงะ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ออกจากพื้นที่เป็นการด่วน โดยให้มาปฏิบัติหน้าที่ ประจำงานสืบสวนคดีพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ศชต. และ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 กันยายน 2560

สาเหตุที่มีคำสั่งย้ายดังกล่าว เนื่องจากผู้บังคับบัญชาเห็นว่าจากวีรกรรมของ สิบตำรวจโท พูลสวัสดิ์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม แม้จะได้รับคำชมจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงและประชาชนทั่วประเทศ แต่เนื่องจากมีการเผยแพร่คลิป ภาพใบหน้าของ สิบตำรวจโท พูลสวัสดิ์ ผ่านทางสื่อมวลชนแขนงต่างๆ อย่างแพร่หลาย ทำให้ผู้บังคับบัญชาเกิดความหวั่นเกรงว่า สิบตำรวจโท พูลสวัสดิ์ จะตกเป็นเป้าหมายการฆ่าล้างแค้นเหมือนดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่หลายนายในช่วงก่อนหน้านี้ อาทิกรณี “จ่าเพียร” พันตำรวจเอก สมเพียร เอกสมญา อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา จังหวัดยะลา ที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดสังหารจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2553 ดังนั้นผู้บังคับบัญชาจึงต้องมีคำสั่งให้นำตัวสิบตำรวจโท พูลสวัสดิ์ ออกจากพื้นที่เพื่อนำตำรวจมือดีมารักษาชีวิตไว้ก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้มีความละเอียดอ่อนมาก ที่ผ่านมาหากมีเจ้าหน้าที่คนใด มีผลงานดีหรือ มีความเด่นดังมักจะเป็นเป้าสังหารของกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ อาทิ หมวดเคน หมวดตี้ และพันตำรวจเอกสมเพียร ซึ่งผู้บังคับบัญชาไม่ต้องการให้เกิดเหตุซ้ำรอยเช่นนี้อีก 

นอกจากนี้ทาง ศชต.ยังได้ให้ความสำคัญกับ นายตำรวจคนนี้ ด้วยการให้ขวัญกำลังใจและเปิดโอกาสความก้าวหน้าในหน้าการงานเพื่อตอบแทนความห้าวหาญเด็ดเดี่ยว อย่างมีสติในการป้องกันที่ตั้งและชีวิตเพื่อนตำรวจอีกหลายนายได้ในขณะเกิดวิกฤติขึ้นโดยได้ใช้หลักวิชาการทางการฝึกฝนความเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดีเยี่ยมด้วย