เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 4 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนาย วรวุฒิ บัวบาน อายุ 37 ปี ลูกชาย นางทองใบ บัวบาน อายุ 70 ปี ผ่านเพจ แฟนข่าวสมุทรปราการ ว่าเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 เวลา 10.10-10.20 น.ขณะที่ นางทองใบ บัวบาน ขายของอยู่ที่ร้านขายของชำ เลขที่ 29/17 ภายในซอยกิ่งแก้ว 24 หมู่ 3 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้วางกระเป๋าแบบผ้ามีลวดลายสีแดง ภายในมีกระเป๋าเงินแบบหนังสีขาว ซึ่งภายในมีเงินสด จำนวน 20,000 บาท วางไว้บนเคาน์เตอร์ที่เก็บเงิน ต่อมาได้มีคนร้ายเป็นหญิง รูปร่างผอมเล็กสวมหมวกนิรภัยสีดำเต็มใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสื้อแจ็กเก็ตสีดำ สะพายกระเป๋าเป้ สีดำ ทำทีเป็นลูกค้าเข้ามาซื้อของ เมื่อซื้อเสร็จก็ออกจากร้านไป โดยขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปด้านท้ายซอย และสักพักได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับมาอีกครั้งเพื่อซื้อของอีกครั้งที่ 2 โดยสั่งซื้อน้ำแข็ง และน้ำอัดลม ในจังหวะที่ นางทองใบ บัวบาน หันหลัง คนร้ายได้ฉวยโอกาส หยิบกระเป๋าดังกล่าวไป โดยซุกในเสื้อแจ็กเก็ตสีดำแล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ทางด้านปากซอย ตนจึงเอาภาพกล้องวงจรปิดที่ร้านที่สามารถจับภาพในขณะที่คนร้ายลงมือก่อเหตุไว้ได้ จึงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.บางแก้ว  นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 1 อาทิตย์แล้ว คดียังไม่คืบหน้าไปไหนเลย แม้แต่เจ้าหน้าที่สักคนยังไม่มีมาดูที่เกิดเหตุ เลย ตนจึงมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน

หลังได้รับการร้องเรียน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ เกิดเหตุ เป็นร้านขายของชำอยู่ชั้นล่างของ หอพัก บ้านบัวบาน 1 พบกับ นางทองใบ บัวบาน เจ้าของร้า น เล่าว่า เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 10.00 น. ตนเองได้มาเปิดร้านขายของชำดังกล่าว มีคนร้ายเป็นหญิง รูปร่างผอมเล็กสวมหมวกนิรภัยสีดำเต็มใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสื้อแจ็กเก็ตสีดำ เข้ามาซื้อของ ขบเคี้ยว น้ำปลา น้ำแข็ง โดยให้เงินเป็นแบงค์ 1 พันบาท แต่สตางค์ทอนในลิ้นชักไม่พอ ตนจึงหยิบกระเป๋าผ้าที่ภายในมีเงินทอนที่ตนเก็บไว้ ในลิ้นชักด้านล่างออกมาทอนให้ไปและวางกระเป๋าดังกล่าวไว้บนเคาน์เตอร์ที่เก็บเงิน  และสักพักเดียวผู้หญิงคนเดิมได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาซื้อ น้ำอัดลมและน้ำแข็ง ระหว่างที่ตนเองหันหลังเดินไปหยิบน้ำแข็งในตู้เย็น มาให้หญิงดังกล่าวแต่พอได้ของผู้หญิงดังกล่าวทำทีเป็นลืมถุงน้ำแข็งตนจึงเดินเอาออกไปให้ที่หน้าร้านหลังจากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์ ออกไป  พอตนกลับเข้ามาที่ร้านไม่พบกระเป๋าผ้าที่ใส่เงินแล้ว จึงเรียกลูกชายมาเปิดกล้องวงจรปิดดู ก็พบว่าผู้หญิงคนที่มาซื้อของรอบที่ 2 เป็นคนหยิบเอากระเป๋าสตางค์ของตนไป และขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปทางปากซอย ตนจึงให้ลูกชายเอาหลักฐานกล้องวงจรปิดที่จับภาพไว้ได้พาตนไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางแก้ว ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไม่มีตำรวจมาดูที่เกิดเหตุเลย ตนอยากให้ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเงินที่หายไป เป็นน้ำพักน้ำรงคนแก่ที่เก็บสะสมเอาไว้เพื่อจะไปทำฟัน แต่ก็มาถูกขโมยไปเสียก่อน

ภาพ / ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิกนิวส์ จ. สมุทรปราการ