ผวา! กลุ่มชายฉกรรจ์ บุกทุบทำลายห้องเช่าเมืองโคราช พัง 21 ห้อง รื้อค้นทรัพย์สินโยนทิ้งเกลื่อน

ผวา! กลุ่มชายฉกรรจ์ บุกทุบทำลายห้องเช่าเมืองโคราช พัง 21 ห้อง รื้อค้นทรัพย์สินโยนทิ้งเกลื่อน


วันที่ 9 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังห้องเช่าแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ทางไปวัดศาลาลอย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังจากมีผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของห้องเช่าได้ร้องเรียนมายังสื่อมวลชนว่าโดนกลุ่มบุคคลประมาณกว่า 10 คน อ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินผืนดังกล่าวที่เป็นห้องเช่านั้นบุกเข้ามาทุบทำลายห้องเช่าทั้งหมด 21 ห้อง ทุบกำแพง รื้อหลังคาที่มุงด้วยสังกะสี รื้อวงกบประตู หน้าต่าง ก่อนที่จะนำขึ้นรถกระบะไป นอกจากนี้ยังได้มีการรื้อค้นทรัพย์สินของผู้เช่านำขึ้นรถกระบะไปด้วย โดยมูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งทางนายอุทัย มิ่งขวัญ ในฐานะกรรมการสมาคมสมาชิกรัฐสภาไทย และ นายสุนทร แพงไพรี ประธานชมรมกำจัดโกงโคราช ได้มีการนำนายมานพ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี เจ้าของที่ดินที่เป็นห้องเช่าได้เข้าไปร้องยังศูนย์ดำรงธรรมแล้ว

โดยนายมานพฯ เจ้าของที่ดินบอกว่า ที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินมรดกของตนมีเนื้อที่ประมาณ  1 ไร่ 1 ตารางวา ซึ่งแบ่งมาจากพี่น้องของตน โดยสร้างห้องเช่าชื่อหอพักวิดีโอ บริเวณถนนที่มายังวัดศาลาลอย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยที่ดินผืนนี้เตรียมที่จะแบ่งไว้ให้ลูกทั้งหมด 3 คน แต่ยังไม่ได้แบ่งจึงได้มีการให้ทางคู่สมรสนั้นเป็นคนดูแลเนื่องจากตนนั้นมีโรคประจำตัวหลายโรคเพื่อเป็นอะไรไปก่อนที่จะมีการแบ่งที่ดิน จากนั้นตนมารู้ว่าคู่สมรสของตนนั้นได้ปลอมแปลงลายมือของตนและนำที่ดินผืนนี้ไปขายฝากยังนายทุนที่อำเภอโนนสูงในวงเงินประมาณ 4 ล้านบาท ซึ่งมารู้ตอนที่สัญญาใกล้ครบกำหนด จึงได้แจ้งความให้ระงับธุรกรรมดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มชายประมาณเกือบ 10 คน ได้นำรถกระบะพร้อมเครื่องมือบุกเข้ามาและทุบทำลายห้องเช่าของตนพร้อมกับรื้อหลังคา วงกบหน้าต่าง และทรัพย์สินบางส่วนนำขึ้นรถกระบะไป ซึ่งตนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากนี้จะเข้าแจ้งความกำทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดกับชายกลุ่มดังกล่าว


ขณะเดียวกันทางด้านนางศรี  รู้หลัก อายุ 48 ปี ผู้เช่า บอกกว่า ในวันที่กลุ่มชายดังกล่าวเข้ามาทุบห้องเช่านั้นตนกำลังจะออกไปเก็บของเก่าเพื่อนำมาขาย อยู่ดีๆก็เห็นกลุ่มชายเหล่านี้ขับรถกระบะเข้ามาพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือและลงมืทุบห้องเช่าพร้อมกับรื้อคนทรัพย์สินภายในห้องเช่าพร้อมอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งห้องเช่าของตนก็โดนทุบและรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องของตนอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้มีการรื้อมิเตอร์น้ำประปาและมิเตอร์ไฟฟ้าไปด้วย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเพราะอยู่ดีๆกลุ่มชายเหล่านี้ก็เข้ามาทุบห้องเช่าพร้อมรื้อค้นข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องพักของตนและโยนออกมาด้านนอกกระจัดกระจาย ซึ่งทำให้ตอนนี้ตนต้องไปอาศัยอยู่ที่บ้านของสามีเพราะห้องเช่าได้ถูกทุบทำลายทิ้งแล้ว

ขณะที่ผู้เช่าอีกรายที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห้องเช่าแต่เป็นที่ดินคนละผืนกันได้เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ในวันที่กลุ่มชายดังกล่าวเข้ามาทุบทำลายห้องเช่านั้นตนก็รู้สึกตกใจจึงออกมาดูจึงเห็นว่ามีกลุ่มชายประมาณเกือบ 10 คน นั้นกำลังทุบและรื้อค้นข้าวของภายในห้องเช่า จึงได้มีการถามไปเป็นใครมาจากไหนซึ่งทางกลุ่มชายดังกล่าวนั้นก็บอกว่าเป็นเจ้าของที่ดินตนก็รู้สึกตกใจเพราะว่าที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินของนายมานพซึ่งเป็นเจ้าของตัวจริง ก่อนที่ชายกลุ่มดังกล่าวนั้นพูดขู่ด้วยว่าจะปิดทางเข้าออก

ทั้งนี้ทางกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดเตรียมเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดกลับชายกลุ่มดังกล่าวที่เข้ามาทุบทำลายห้องเช่าพร้อมมีการนำทรัพย์สินของเจ้าของห้องเช่าและทรัพย์ของผู้เช่าบางส่วนนำกลับไป



ภาพ / ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิกนิวส์ จ.นครราชสีมา 






ติดต่อ โฆษณา

Contact : Click Marketting -

Clicknews-tv.net