เมื่อช่วงเย็น วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของ นางสาวพร ภายในหมู่บ้าน ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พบว่าไม่มีคนอยู่บ้าน ประตูรั้ว และประตูเหล็กดัดด้านในพบว่าถูกล็อกด้วยแม่กุญแจ จากการสังเกตด้านนอก พบว่ารถจักรยานยนต์ที่ นางสาวพร บอกว่าเอาไว้ใช้ขี่ไปซื้อข้าว ได้หายไป ที่ด้านหน้าประตูด้านในพบว่ายังมีข้าวของเครื่องใช้อยู่ ที่ถนนหลักของหมู่บ้านยังพบรถกระตู้ทึบของ นางสาวพร จอดอยู่

ในส่วนของหมู่บ้านผู้สื่อข่าว จากการตรวจสอบพบว่า ตรงทางเข้าหมู่บ้านมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั่งอยู่ภายในป้อมตลอด และจะมีไม้กั้น ทั้งเข้าและออก สำหรับคนในหมู่บ้านจะมีคีย์การ์ดไว้สำหรับเข้าออก ส่วนบุคคลภายนอก จะต้องทำการแลกบัตร คือ บุคคลภายนอกถ้าจะเข้าหมู่บ้านจะต้องนำบัตรประชาชนยื่นให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำการบันทึกลงเอกสาร และจะทำการโชว์บัตรประชาชนต่อหน้ากล้องวงจรปิดตรงจุดที่กล้องหันไปถ่ายเห็นหน้าบุคคลที่ขับ ก่อนจะคืนบัตรประชาชนให้แล้วเปิดประตูให้ขับรถเข้าไป

จากการสอบถาม นายมานะ คุณปรีชา ประธารหมู่บ้าน ผ่านทางโทรศัพท์ บอกว่า จากข้อมูลที่ตนมี พรมีคีย์การ์ด 2 ใบ เป็นใบที่แจกให้ฟรี 1 ใบและอีกใบเป็นใบที่เสียเงิน 150 บาท  ทีนี้ พร เขาจะมี 2 ใบหรือ 3 ใบ ตนรู้แค่ว่าตนมีข้อมูลของเขาอยู่แค่ 2 ใบ ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีใบที่ 3 ตนไม่แน่ใจว่าเป็นกรรมการชุดเดิมหรือเปล่า คือหมู่บ้านของตนมีกรรมการ 2 ชุด คือชุดแรกตั้งแต่เริ่มสร้างหมู่บ้านอันนั้นคือเขาเป็นหนึ่งวาระ คือสรุปแล้ว ข้อมูลที่ตนมีคือที่หมู่บ้านจะมีคีย์การ์ดที่แจกให้ลูกบ้านฟรีหลังละ 1 ใบ ทั้ง 430 หลังคาเรือน ส่วนบ้านหลังไหนที่มีรถมากกว่า 1 คัน ก็สามารถมาขอซื้อคีย์การ์ดเพิ่มได้ ในราคาใบละ 150 บาท ส่วน พรเขามีซื้อคีย์การ์ดเพิ่มกับตน 1 ใบ รวมกับของที่แจกฟรีก็คือ 2 ใบ ส่วนใบที่ 3 ตนไม่แน่ใจว่าเขาได้มาตั้งแต่กรรมการชุดแรกหรือเปล่า เพราะหมู่บ้านตนจะมีกรรมการชุดแรกและชุดต่อไปคือพวกตน คือชุดแรกจะมีวาระ 2 ปีแล้วต่อมาคือพวกตนทำมาตลอดยังไม่มีกรรมการชุดใหม่ ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่า  พรย้ายออกจากบ้าน ตนคิดว่าน่าจะแค่ แค่ขนของออกเพราะพรเพิ่งจะจ่ายค่าส่วนกลาง 3 เดือนนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โอนมาเมื่อวาน 600 บาท เดี๋ยวทางตนต้องทำใบเสร็จและถ่ายรูปส่งให้พรทางไลน์ ส่วนเรื่องที่พรตอนนี้ ออกไปพักอยู่ที่ไหนตนไม่ทราบ คือในการให้สัมภาษณ์แต่ละครั้ง ตนจะให้สัมภาษณ์แต่เรื่องที่ตนรู้ และไม่กระทบสิทธิ์ใคร ส่วนคนที่จะถูกหรือผิด ก็ขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เท่าที่ตนรู้คือมีคีย์การ์ด 2 ใบ คือถ้าตั้งแต่ในอดีต คณะกรรมการชุดแรก คือตนไม่รู้ว่ามีคีย์การ์ดอีก 1 ใบหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ คือคีย์การ์ดทั้งสองใบมีซีเรียลซ์นัมเบอร์ ตนคิดว่าทางเจ้าที่ตำรวจน่าจะรู้อยู่แล้วเพราะเขามาเช็คจากเครื่องสแกนบัตรว่าคีย์การ์ด ที่ผ่านเข้าออกไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องหา พรหรือพ่อของพร ว่าเป็นคีย์การ์ดรหัสอะไร ส่วนของพ่อเขาที่บอกว่าเป็นคีย์การ์ดตั้งแต่นิติเก่า อันนี้คือตนไม่รู้ไม่มีข้อมูล

ภาพ / ข่าว : ผู้สื่อข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.สมุทรปราการ