ตะลึงขนลุก!! เผาไปแล้ว 6 เดือน จู่ๆ ศพโผล่มาให้เห็นตัวเป็นๆ ร้องขอชีวิตคืน ก่อนรู้เผาใครไป ลมแทบจับ!!

ตะลึงขนลุก!! เผาไปแล้ว 6 เดือน จู่ๆ ศพโผล่มาให้เห็นตัวเป็นๆ ร้องขอชีวิตคืน ก่อนรู้เผาใครไป ลมแทบจับ!!


 

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 60  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 6 บ้านเหล่าฝ้าย ต.เหล่ากวาง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ  นายสว่าง ไกรษี  ครูชำนาญการพิเศษ  ร.ร.บ้านเหล่าฝ้าย พร้อมด้วย นายเจริญ  เหล็กดี  อายุ 55 ปี  นักการภารโรง ร.ร.บ้านเหล่าฝ้าย นายนครชัย   พิมพ์กลาง อายุ 33 ปี  นายบุญหลาย   พาชื่น  อายุ  59 ปี  และญาติพี่น้องได้นำตัว นายสาคร  สาชีวะ  อายุ 44 ปี  เข้าร้องทุกข์กับสื่อมวลชนว่า นายสาคร  ถูกทางราชการระบุว่าเสียชีวิตแล้ว  ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่  และได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อช่วงเย็นของวันที่  17 ธ.ค. 60 ที่ผ่านมา  หลังจากที่ไปทำงานบนเรือประมงที่ จ.นครศรีธรรมราช นานกว่า 1 ปี  และเมื่อกลับมาถึงบ้านปรากฏว่า ญาติพี่น้องได้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพชายคนหนึ่งที่ทางราชการระบุว่า เป็นศพของนายสาคร  และได้มีการทำบุญนำเอาอัฐิเข้าไว้ในเจดีย์เรียบร้อยแล้ว
 


 

นายเจริญ  เหล็กดี  อายุ 55 ปี  นักการภารโรง ร.ร.บ้านเหล่าฝ้าย  ซึ่งเป็นพี่เขยของนายสาคร  กล่าวว่า  ตนได้รับแจ้งจากภรรยาซึ่งเป็นพี่สาวของนายสาครว่า  เจ้าหน้าที่ ตร.สน.นางเลิ้ง  โทรศัพท์มาแจ้งว่า ให้ไปรับศพของนายสาคร ที่ คณะแพทย์ศาสตร์วชิระพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  กรุงเทพ  เนื่องจากว่า  นายสาคร เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อในทางเดินอาหาร  โดยเสียชีวิตที่ห้องเลขที่ 20 บ้านเลขที่ 236/3 ปรินายก 6 ราชดำเนิน แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 60 ที่ผ่านมา  ดังนั้น  ตนพร้อมด้วย นายนครชัย   พิมพ์กลาง อายุ 33 ปี  และญาติพี่น้อง จึงได้ว่าจ้างรถยนต์รับจ้าง จำนวน 10,000 บาท ไปรับศพของนายสาคร   โดยได้ไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ตร.ที่ สน.นางเลิ้ง จากนั้น ไปติดต่อขอรับศพนายสาคร ที่ คณะแพทย์ศาสตร์วชิระพยาบาล โดยมีหนังสือรับรองการตายของคณะแพทย์ศาสตร์วชิระพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ที่ ว.414/2560   ลงวันที่ 21 พ.ค. 60  และมีใบมรณบัตร สำนักทะเบียนท้องถิ่น เขตพระนคร เลขที่ 01-10014331 ตามคำร้องที่ 5203/2560

 

นายนครชัย   พิมพ์กลาง อายุ 33 ปี  กล่าวว่า  ขณะที่ไปรับศพนายสาครนั้น  ตนและญาติพี่น้องได้ขอดูศพของนายสาคร  แต่เจ้าหน้าที่เปิดศพให้ดูแค่หน้าอก ซึ่งพบว่า ศพเริ่มบวมขึ้นอืดแล้ว แต่ที่ผิดสังเกตคือ ฟันของศพจะยื่นออกมา  ซึ่งผิดจากข้อเท็จจริงที่นายสาครจะมีฟันหลอบริเวณฟันด้านหน้า  ซึ่งตนได้แจ้งความผิดสังเกตนี้ให้เจ้าหน้าที่ทราบแล้ว   แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า  ศพตายหลายวันแล้วเริ่มบวมขึ้นอืดให้รับออกไปได้  ตนกับญาติพี่น้องจึงได้รับศพของนายสาครกลับมาทำบุญที่บ้าน  โดยกลับมาถึงบ้านเหล่าฝ้าย เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 60 และได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศล 3 วัน จากนั้น ได้ฌาปนกิจศพที่วัดบ้านเหล่าฝ้าย   จากนั้นนำอัฐิเข้าบรรจุในเจดีย์เรียบร้อยแล้ว

 

 

นายนครชัย  กล่าวต่อไปว่า  ต่อมาช่วงค่ำของวันที่ 17 ธ.ค. 60  ปรากฏว่า นายสาคร ได้เดินทางกลับมาที่บ้านเหล่าฝ้าย  ซึ่งตนและญาติพี่น้องต่างพากันตื่นตกใจมาก  เพราะคาดไม่ถึงว่า ทำบุญเผาศพนายสาครไปแล้ว แต่ว่านายสาคร กลับมาที่บ้านอีก และเมื่อเข้าไปจับตัวของนายสาครดูแล้ว  จึงรู้ว่าเป็นคนจริง ๆ ไม่ใช่ผี  จึงได้แจ้งให้ นายวีระศักดิ์   แม่นทอง  ผู้ใหญ่บ้านเหล่าฝ้ายทราบ และได้มาพบกับนายสาคร  ซึ่งนายวีระศักดิ์  ซึ่งรู้จักนายสาครเป็นอย่างดีได้ยืนยันว่า เป็นนายสาครตัวจริง
 



 

ทางด้าน  นายสาคร    สาชีวะ  อายุ 44 ปี  ที่ญาติพี่น้องเข้าใจว่าตายไปแล้ว กล่าวว่า   ตนได้ออกจากบ้านไปทำงานบนเรือประมงที่ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. 59 ที่ผ่านมา  และระหว่างที่ทำงานอยู่ในเรือประมงนั้น  ได้มีชายชาวพม่าคนหนึ่งที่ทำงานบนเรือประมงด้วยกันได้มาแย่งเอาบัตรประชาชนของตนเองไป  ซึ่งตนได้พยายามแย่งเอาบัตรประชาชนคืนแล้วแต่ว่า ไม่สามารถจะเอาบัตรประชาชนของตนคืนจากชายชาวพม่าได้  และชายชาวพม่าได้ขึ้นจากเรือประมงหนีไป  จากนั้น ตนได้ไปแจ้งความบัตรประชาชนหายและขอทำบัตรประชาชนใหม่ที่ อ.ขะนอม จ.นครศรีธรรมราช  หลังจากนั้น ทำงานอยู่บนเรือประมงนานประมาณ 1 ปี 2 เดือน จึงได้เดินทางกลับมาบ้านและพบว่า มีการเผาศพของชายไม่ทราบชื่อซึ่งเข้าใจว่าเป็นศพของตนไปแล้ว  ตนจึงขอร้องทุกข์ขอชีวิตคืนให้ตนด้วย เพราะว่า ตนยังไม่ได้ตายจริง  แต่ตามหลักฐานทะเบียนราษฏร์ได้ระบุว่า ตนได้เสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่วันที่  18 พ.ค. 60 ที่ผ่านมา

 

ทางด้าน นายวีระศักดิ์   แม่นทอง  ผู้ใหญ่บ้านเหล่าฝ้าย  กล่าวว่า  ตนได้ตรวจสอบดูแล้ว เห็นว่า เป็นนายสาครที่เป็นลูกบ้านของตนจริง  ดังนั้น  ตนจะได้นำตัวนายสาครไปพบกับนายอำเภอโนนคูณ เพื่อรายงานเรื่องนี้ให้ทราบ  เพื่อขอให้พิจารณาให้การช่วยเหลือ นายสาคร   สาชีวะ  เพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

ภาพ / ข่าว : ทีมข่าวคลิ๊กนิวส์ จ.ศรีสะเกษ 






ติดต่อ โฆษณา

Contact : Click Marketting -

Clicknews-tv.net