ช็อก!! "ลุงภารโรง" ติดคุกฟรี นานกว่า 10 ปี ก่อนเจอ 2 นักโทษในคุก ยืดอกสารภาพความผิด ผมคือ "ผู้ต้องหาตัวจริง"
วันที่ 22 มีนาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นเรื่องราวที่สร้างความสั่นสะเทือนให้กับระบบยุติธรรมไทยอีกครั้ง เมื่อนักโทษ 2 ราย ได้เขียนจดหมายถึงกระทรวงยุติธรรม ระบุว่าพวกเขาเป็นผู้ต้องหาตัวจริงในคดีปล้นทรัพย์บ้านฝรั่ง ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อปี 2549 หลังจาก "ลุงนักการภารโรงคนหนึ่ง" ตกเป็นแพะในคดีนี้ และถูกศาลพิพากษาจำคุกยาวนานถึง 20 ปี ทั้งที่พยายามต่อสู่คดีมาโดยตลอด ทำให้ขณะนี้ "ลุงนักการภารโรง" รายนี้ ต้องติดคุกฟรีนานกว่า 11 ปีแล้ว
โดยเรื่องราวดังกล่าว ถูกเผยแพร่มาจากเพจ อีจัน ซึ่งได้เขียนข้อความ บอกเล่ารายละเอียด ดังนี้ อีจัน
#อ่านจดหมายนักโทษ #เขียนสารภาพ
ผมคือ คนผิดตัวจริง!!! นักโทษคนที่เข้าคุกมานี้ เป็นแพะ!!!
#จดหมายจากเรือนจำ ทวงความยุติธรรมให้แพะ
เมื่อ 11 ปีก่อน วันที่ 23 มีนาคม 2549 เวลาประมาณ 18.45 น. เกิดเหตุปล้นบ้านฝรั่ง ที่หมู่ 4 ตำบลปลายนา อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เหตุปล้นรถกระบะ 4 ประตูนี้มี คนร้ายเป็นชาย 4 คน บุกเข้ามาในบ้าน ใช้ปืนและมีดข่มขู่ผู้เสียหาย
จากนั้นใช้เข็มขัดพลาสติกมัดมือ นางบุปผา กันเกตุ นายประเสริฐ ม่วงน้อย ดญ.คัณฑมาส แสงวันทอง และดญ.ใบเฟิร์น แสงวันทอง
ก่อนจะขู่เอากุญแจรถกระบะ 4 ประตู ไปจากนั้นคนร้ายทั้ง 4 คน เอากุญแจรถกระบะให้กับคนร้ายอีก 1 คน ที่จอดรถเก๋งรออยู่ด้านนอก เพื่อขับรถกระบะของผู้เสียหายไป
ต่อมาตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน คือ นายกมล แพเขียว หนุ่มนักการภารโรง โรงเรียนหันคาพิทยาคม อ.หันคา จ.ชัยนาท และส่งฟ้องศาล ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาจำคุก 20 ปี ต่อมาศาลฎีกา เห็นตามศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุกนายกมล 20 ปี นายกมล และครอบครัว พยายามต่อสู้มาตลอดว่าไม่ใช่ผู้กระทำความผิด
ต่อมาใน ปีพ.ศ.2552 ระหว่างที่นายกมล จำคุกอยู่ที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ได้พบกับนักโทษชาย 2 คน คือ นช.สาคร ขาวพันธุ์ และ นช.เอกราช เหลาอ่อน ผู้ต้องหาคดีปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์
นายกมล ได้เล่าเรื่องราวของเขาให้กับ 2 นักโทษฟัง นักโทษทั้ง 2 ได้ฟังถึงกับอึ้ง เพราะเหตุปล้นทรัพย์ ที่บ้านฝรั่ง ที่ต.ปลายนานั้น นักโทษทั้ง 2 และเพื่อนอีก 3 คน ยอมรับว่า พวกเขาเป็นคนก่อเหตุ
นักโทษชาย ทั้ง 2 คน รู้สึกผิดที่ทำให้ลุงกมลต้องมาเป็นแพะในคดีที่ลุงกมลไม่ได้ก่อ จึงพยายามร้องเรียนและสารภาพความจริงไปยังหน่วยงาน แต่ไม่เป็นผล จนเมื่อเดือนกุมภาพันธุ์ 2559 นช.สาคร และนชเอกราชพยายามอีกครั้ง โดยส่งจดหมายถึงกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ช่วยรื้อคดี และคืนความเป็นธรรมให้กับลุงกมล และตนเองพร้อมรับโทษในคดีนี้
ซึ่งตอนนี้กระทรวงยุติธรรม กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อพิสูจน์ความจริง เรื่องนี้
บก.ข่าวแปะอีจันรายงาน
22 มีนาคม 2560
ขอบคุณ ที่มา : อีจัน