ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์คนร้ายบีบคอ นางทองมา อายุ 74 ปี เสียชีวิต แล้วชิงสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท โดยคนร้ายใช้ห่มผ้าคลุมร่างผู้เสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน เพื่ออำพรางคดี มีผ้าเช็ดตัวรัดแน่นอยู่ที่ลำคอเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันที่ 20 ม.ค.62 ภายในบ้านชั้นเดียวในไร่อ้อย บ้านหนองพง ตำบลทุ่งคอก อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (22 มี.ค.) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี จับกุมตัว นายจักรกฤษณ์ หรือ อาร์ท อายุ 27 ปี ได้แล้วหลังจากหนีไปอยู่ในพื้นที่อำเภอเลาขวัญ แล้วไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเพื่อชิงทรัพย์ กระทั่งมีหมายจับของ สภ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี

ต่อมา พ.ต.อ.สราวุธ ศรีชัย รอง ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี และ พ.ต.อ.ธนกฤต  จันทร์ชีระ ผกก.สภ.ทุ่งคอก พร้อมชุดสืบสวน นำกำลังไปรับตัวนายจักรกฤษณ์ ที่ สภ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี มาสอบสวนเพื่อเติม

หลังจากนั้นนำตัวนายจักรกฤษณ์ ไปชี้จุดที่ร้านทองในตลาดอำเภออู่ทองหลังจากก่อเหตุเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ได้นำคอทองคำ 1 บาท ไปขายได้เงิน 18,000 บาท และแหวนทองคำ 2 สลึง ได้เงิน 4,400 บาท

ต่อมานำตัวไปชี้จุดที่ทิ้งกระเป๋าบริเวณคลองชลประทานบ้านโป่ง-ทับกระดาน หมู่ 1 ต.ทุ่งคอก จุดสุดท้ายที่สามแยกผู้ใหญ่เต็มซึ่งนายจักรกฤษณ์  ได้ขี่รถจยย.มาจอดทิ้งไว้ที่ใต้ต้นมะม่วงห่างจากบ้านผู้ตายเพียง 200 เมตร แล้วถอดรองเท้าเดินฝ่าไร่อ้อยแล้วไปเข้าหลังบ้านไปก่อเหตุ

นายจักรกฤษณ์ ให้การว่า ตนเคยทำงานอยู่ที่โรงงานเม็ดพลาสติก ใกล้ที่เกิดเหตุแต่ตอนนี้ตกงานได้รู้จักกับคนในครอบครัวของผู้ตายรวมทั้งผู้ตาย ตนเคยยืมเงินผู้ตายครั้งละ 300-500 บาท และเคยไปนอนบ้านของผู้ตาย 1 ครั้ง จึงรู้ว่าผู้ตายมีเงินติดตัวมาก และตนร้อนเงินไม่มีเงินให้ลูกเมียใช้จ่าย

ก่อนเกิดเหตุช่วงเที่ยงคืนได้ขี่รถ จยย.ยี่ห้อซูซุกิ ทะเบียน ขตต 832 นครปฐม ไปจอดใต้ต้นมะม่วงใกล้สี่แยกผู้ใหญ่เต็มซึ่งห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 200 เมตร แล้วถอดรองเท้าเดินเข้าไปหลังบ้านเพื่อไม่ให้สุนัขเห่า แล้วไปปีนหน้าต่างเข้าไปยืมเงิน แต่ผู้ตายขัดขืนจึงใช้มือบีบคอจนเสียชีวิตแล้วค้นได้เงินไป 20,000 บาท และทองจำนวนหนึ่ง

หลังจากนั้นกลับไปที่บ้านเมียที่บ้านหนองแหน หมู่ 2 ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง กระทั่งฟังข่าวทราบว่าตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้าย จึงตัดสินใจหนีไปบ้านแม่ที่อำเภอด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี และหนีไปกบดานที่อำเภอเลาขวัญ จ.กาญจนบุรี กระทั่งเงินหมดจึงไปก่อเหตุชิงทรัพย์ ทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บกระทั่งถูกออกหมายจับดังกล่าว

ทางด้าน พ.ต.อ.สราวุธ  ศรีชัย รอง ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง แต่ไม่ยอมไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากกลัวถูกญาติผู้ตายรุมประชาทัณฑ์ แต่ยอมไปชี้จุดต่างๆ เพื่อถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป ในข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย